กลอนเปล่า

หัวใจอ่อนแอโรยรา จมกับอยู่กับการรอคอย

…วันเวลาที่ผ่านมา…เป็นแค่วันเก่า…
ทุก-ทุกภาพทุก-ทุกเรื่องราว…เลือนหาย..
คราบน้ำตาในคืนเหงา…และอ้อมกอดในวันเปลี่ยวเปล่า…กลับกลาย
รอยจูบในคืนสุดท้าย…กำลังค่อย-ค่อยจางหาย…ตามเวลา

…ทิ้งไว้เพียง…ความทรงจำ…
และคนถูกลืมที่เจ็บช้ำ…จนเกินรักษา…
ความเหงาที่ทับถม…ยิ่งเพิ่มรอยขม…ให้คราบน้ำตา
หัวใจอ่อนแอโรยรา…จมกับอยู่กับความโหยหา…และการรอคอย…

by : εїзฌลาεїз 4 กพ 56 บ้านกลอนไทย

ที่ไปที่มา…ของทุก-ทุกคราบน้ำตา

…หากคุณมีหัวใจ…
คุณคงรู้ว่าทำไม…หัวใจฉันเต้นช้า
หากคุณมีความรู้สึก…หัวใจลึก-ลึก…คงไม่เย็นชา
คุณคงรู้ที่ไปที่มา…ของทุก-ทุกคราบน้ำตา…ที่ฉันมี

…หากคุณมีหัวใจ…
ความรู้สึกฉันคงมีความหมาย…มากกว่านี้
หากคุณมองมาบ้าง…ความรวดร้าวอ้างว้าง…คงไม่มี
หากคุณรู้จัก’รัก’ใครบ้างคงดี…ฉันคงไม่ต้องเสียน้ำตาอย่างนี้…ทุกวัน

…หากคุณยังมี…หัวใจ…
ได้โปรดเถอะหยุดทำร้าย…หัวใจฉัน
ก่อนความช้ำจะเกินเยียวยา…เกินจะใช้น้ำตา..ลบมัน
และสุดท้ายเมื่อถึงวันนั้น…ฉันอาจจะหมดกำลังใจจะฝัน…และรักเธอ…

by : εїзฌลาεїз 25 มค 56

กลอนเปล่า

…สำหรับฉัน…กลอนเปล่า…
เป็นอีกหนึ่งหนทางบอกเล่า….ความอ่อนไหว
แทนความรู้สึกห่วงหา…แทนอ้อมกอดในเวลา…ห่างไกล
แทนผ้าเช็ดหน้าตอนร้องไห้…และแทนความในใจ…เพื่อบางคน

…บทกลอน…ของฉัน…
บอกทุกความรู้สึกที่มัน…ท่วมท้น…
อาจไม่เพราะเหมือนใคร-ใคร…แต่มาจากความตั้งใจ…และตัวตน
มอบความรู้สึกถึงบางคน…แม้คนนั้นเค้าไม่สน…ไม่ใส่ใจ

…ทุกความรู้สึก…
ถูกระบายด้วยถ้อยคำบาดลึก…แหลกสลาย
แม้ว่าเขาไม่เห็นค่า…แต่ทุกคนที่นี่ยังมองมา…ห่วงใย
หัวใจฉันมันอ่อนไหว…แค่อยากหาที่ระบาย…เท่านั้นเอง…

by : εїзฌลาεїз 25 มค 56

ไม่ว่าวันไหน….ไม่ต่างกัน

…เคยคิดว่าคงต้องเสีย…น้ำตา…
และผ่านคืนนี้อย่างเหว่ว้า….อ่อนไหว
คงเหงาเหมือนทุกที…ในค่ำคืนนี้…วาเลนไทน์
แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป…เพียงเธอกอดฉันไว้…อยู่ข้างกัน

…และเมื่อเวลา…ผ่านพ้น…
วันวาเลนไทน์ที่ทุกข์ทน….กลับอุ่นหวาน
แค่เธอจับมือไว้….ไม่ว่าวันไหน…ไม่ต่างกัน
เมื่อหัวใจยังผูกพัน…วันแห่งความรักนั้น…คือทุกนาที…

โดย ฌลา ประกวดกลอนวาเลนไทน์ 2556 klonthaiclub.com

ฟากฟ้า…ฝั่งทะเล

เมื่อตำนานความรักเหงา – เหงา
กับกลายเป็นเรื่องเล่า…ทะเล ฟากฟ้า
สิ่งทั้งสองเคยครองรักกัน…เมื่อนานมา
แต่ด้วยความอิจฉาของพสุธา…จับแยกกัน
–  –  –  –  –  –  –
ฟากฟ้า และ ท้องทะเล…ยังคงเป็นสีคราม
แสดงออกถึงความรักที่งอกงามในใจนั้น
ห่างกันสุดฟากฟ้า…ฝั่งทะเล…ยังมั่นคงผูกพัน
” รัก ” ที่จริงใจนั้น…อย่าวัดกันที่ระยะทาง
–  –  –  –  –  –  –
เมื่อฝั่งทะเล…คิดถึงซึ่งฟ้าไกล
น้ำจะก่อระเหยเป็นไอแทนความอ้างว้าง
ฟากฟ้า…รับรู้ได้ถึงสายใยบาง – บาง
สายฝนไหลมาเป็นทาง…ลบความอ้างว้างให้ทะเล
–  –  –  –  –  –  –
ถึงแม้เรื่องจริงเส้นขนาน…ไม่เคยบรรจบ
แต่รักของเราไม่ติดลบ…ไม่หันเห
อย่างน้อยยังเคียงคู่…ฟากฟ้า…ฝั่งทะเล
แค่นิทานกล่อมเห่…แต่ มั่นคง ไม่ไขว้เขว…ดั่งใจคน

lookgaow (ชุมชนคนบ้ากลอน) กลอนชนะเลิศ ต.ค.51

คุกเข่าลง…ตรงผืน…แผ่นดินนี้

…คุกเข่าลง…ตรงผืน…แผ่นดินนี้
สองมือที่…บรรจง…กราบลงนั่น
ซบหน้าทาบ…อาบอุ่น…หนุนชีวัน
คือคำมั่น…กตัญญู…รู้พระคุณ

…จะตามรอย…ร้อยพจน์…บทวิถี
กานท์กวี…เอื้อองค์…ผู้ทรงหนุน
จะยึดมั่น…สรรถ้อย…คอยค้ำจุน
หวังต่อทุน…เทิดก่อ…เพื่อพ่อไทย…

จุดหมายหรือค่ายกล ของคนฝัน

เจิดแจรงแสงพราวเหนือราวฟ้า
ประหนึ่งทิพขลิบ-นภาคนกล้าฝัน
คือศูนย์สมอุดมการณ์หนอนานวัน
ของระยะอนันต์แห่งฝันชน

ทะยานอยากมากเหลือทุกเมื่อหนอ
พยายามหามห่อถึงช่อผล
เหตุปัจจัยไหวติงก็ยิ่งทน
ด้วยอยากยลหนหาวสกาวนี้

บ้างถึงฝั่งหวังวาดนิราศสม
ได้โชยชมห่มหุ้มประชุมศรี
เหมือนเวทมนตร์ผลผายประกายมี
แจ่มแจ้งแสงรุจี…นาทีทอง

ได้เริงรื่นชื่นนักเป็นลักษณ์รูป
แล้วเสพสูบลูบฝันสุวรรณผ่อง
โอ้ที่หมายป่ายถึงพาผึ่งพอง
ได้กระหยิ่มยิ้มย่องสมปองปู

มีไม่น้อยห้อยฝันหลายวันลับ
ไม่เคยจับทับฝันสวรรค์หรู
เพียงเฝ้าฝากอยากยลและทนดู
แลทนสู้อยู่ร่มอุดมการณ์

นี่คือความลุ่มลึกให้ฝึกคิด
ก่อนประดิษฐ์จิตฝันบรรทัดฐาน
ต้องรู้รอบกรอบฝันแล้วสันธาน
ก่อนที่ฝันนับล้านประหารเรา

(โดย ดาวระดา กลอนชนะเลิศประกวดกลอนเดือน มิ.ย.55)