ประนมกร กราบไหว้ พระไตรรัตน์

ประนมกร กราบไหว้ พระไตรรัตน์ พรพิพัฒน์ วัฒน์เจิด เลิศสนอง หมายสิ่งสม ภิรมย์ใด ได้ดั่งปอง เทพไท้ป้อง ผองภัย ไร้แผ้วพาน เว้าวอนวัน วัยวน ดลสุขมอบ ก่อเกิดกอบ เกียรติก้อง ซ้องประสาน ยิ่งยืนยศ ย่ำย่าง ทางกิจการ นันทน์เนานาน นาทน้อม ห้อมแห่เทอญ

กลอนสุภาพแปดคำจำต่อวรรค

กลอนสุภาพแปดคำจำต่อวรรค
ฝึกรู้จักถักทอก่อภาษา
ได้ลองแต่งกลอนรักปักอุรา
ไว้ครั้งหน้ามาอ่านสำราญใจ

แต่บางครั้งทั้งเจ็ดและก็เก้า
ยังนำเอามาต่อให้พอไหว
แบ่งวรรคอ่านให้เหมาะไพเราะไป
ไม่ว่าใครฝึกบ่อยจะค่อยดี

เคล็ดลับการเขียนกลอนแปด

๐ กำหนดจิตสู่ธรรมนำประทีป
บานเป็นกลีบบัวรับกานท์อักษร
อัญเชิญจิตบรมคุณท่านสุนทร
พร่างคำกลอนดุจคล้ายสายธารา

๐ เป็นไอเย็นอ่อนอุ่นละมุนถ้อย
ใครยินคล้อยหลงใหลไอภาษา
ดั่งปี่แก้วพระอภัยฯร่ายมนตรา
เชิญท่านมาดื่มด่ำทิพย์คำกลอน..

๐ แต่งให้บ่อยน้องพี่ดีที่สุด
เพราะคือจุดสำคัญกว่าการสอน
ยิ่งจะคิดเขียนงานกานท์บวร
ถ้านิ่งนอนที่ไหนใครจะเป็น

๐ เขียนเยอะเยอะเขียนไว้มันไม่เสีย
ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรงแจ้งให้เห็น
เพียงเขียนกลอนรู้ไว้ใจเย็นเย็น
ลองเคี่ยวเข็ญความเก่งเบ่งบานมา

๐ เพียงแต่เราปล่อยอารมณ์จะสมจิต
มิยึดติดคำใดเอาไว้หนา
หากเช่นนั้นจะเวียนเศียรทันตา
เพราะรอท่าแก้คำแค่คำเดียว

๐ การเล่นคำมีมากอยู่หลากหลาย
แต่ความหมายต่างกันพลันเฉลียว
หากงงงันเปิดตำราอย่าช้าเชียว
อย่าได้เที่ยวใช้คำนอกตำรา

๐ สื่อกฎเกณฑ์ความหมายจะได้รู้
มิให้ใครหยามหลู่สู่ภาษา
สรรพนามครั้งใดใช้ทุกครา
ทั้งขึ้นหน้าลงท้ายต้องคล้ายกัน

๐ เพราะบางคนขึ้นฉันลงท้ายผม
ใส่ผสมเขียนมาช่างน่าขัน
ควรสังเกตให้ดีชี้ให้ครัน
เวลาสรรค์งานได้ไม่อายคน

๐ เวลาแต่งคิดเรื่องให้หลากหลาย
แต่งบรรยายเรื่องราวเคล้าเหตุผล
ควรสร้างงานเป็นเอกเฉกของตน
อย่าไปสนลอกใครนั้นไม่ดี

๐ หากได้ดูผลงานของท่านอื่น
มาปรับฟื้นงานตนจะถูกที่
ดูเป็นแนวพัฒนาอย่ารอรี
จะทวีฝีมือระบือไกล

๐ ถ้าหากย่ำรอยเท้าเก่ากับที่
เหมือนชีวีมิก้าวเข้าใจไหม
แต่งก็วนเรื่องก็วนทนอ่านไป
เดี๋ยวก็ได้ปิดฉากจากบทกลอน

๐ ด้วยจะเป็นกวีนี้ควรคิด
เพียงอยู่ติดเรื่องฝันนั้นไว้ก่อน
หากกวีขาดฝันพลันม้วยมรณ์
แต่งทุกตอนจะกร่อยด้อยค่าลง

๐ เหมือนครูกลอนสุนทรภู่ดูเป็นหลัก
คิดผูกยักษ์รักคนชนใหลหลง
แนวกวีมีวิญญาณงานบรรจง
เยี่ยมที่ตรงคิดได้แล้วร่ายกานท์

๐ แต่งไปเถอะมานะจะสนุก
น้องจะสุขในทิพย์หยิบความหวาน
หนึ่งในร้อยน้อยใครได้พบพาน
แต่ผู้จารงานกลอนพบก่อนใคร?”

(คุณระนาดเอก  จาก kawethai.com)

กาพย์ยานี11 เขียนสรรพเสร็จให้ถูกทาง

กาพย์ยานี๑๑               เขียนสรรพเสร็จให้ถูกทาง
วรรคหน้า๕พยางค์        วรรคหลังบ้างมี๖เอย
พะ-ยาง  นับเป็น๒        ฟ้า-คน-ยอง  ๓ใช่เลย
จำไว้นะทรามเชย          มี๑๑เป็นพยางค์

กาพย์ยานีสิบเอ็ด เคยท่องเคล็ดเมื่อวานก่อน

กาพย์ยานีสิบเอ็ด
เคยท่องเคล็ดเมื่อวานก่อน
ขึ้นใจก่อนเข้านอน
ที่ครูสอนมีดังนี้

วรรคหน้ามีห้าคำ
วรรคหลังจำหกคำมี
แต่งให้ไพเราะดี
จำต้องมีสัมผัสใน

(แมวเหมียว klonthaiclub.com)

เป็นสองมืออุ้มชูเลี้ยงดูลูก เป็นสายใยพันผูกคอยห่วงหา

เป็นสองมืออุ้มชูเลี้ยงดูลูก      เป็นสายใยพันผูกคอยห่วงหา
เป็นอ้อมกอดอบอุ่นค้ำจุนมา  เป็นสายตาห่วงใยใคร่อาทร

ยามเจ็บไข้เฝ้าดูแลด้วยชีวิต     ยามพลั้งผิดท่านอบรมคอยบ่มสอน
ยามเหนื่อยหน่ายกำลังใจไม่สั่นคลอน     ยามใดใดยังอาทรไม่เปลี่ยนแปร

ด้วยความรักของพ่อที่ยิ่งใหญ่      ด้วยหัวใจสะอาดใสเป็นแน่แท้
ด้วยชีวิตเพื่อลูก .. เฝ้าดูแล      ด้วยสองมือไม่ผันแปรเป็นอื่นใด

ชายคนหนึ่ง ทำทุกอย่าง ไม่เคยบ่น ทั้งตากแดด ตากฝน ยอมทนหนาว

ชายคนหนึ่ง ทำทุกอย่าง ไม่เคยบ่น ทั้งตากแดด ตากฝน ยอมทนหนาว เพื่อความหวัง ที่สดใส สุขสกาว ให้ลูกชาย ลูกสาว ได้เล่าเรียน แม้ต้องแลก กับหยาดเหงื่อ สักกี่หยด แม้ต้องควัก สตางค์หมด จนเป็นหนี้ ไม่เคยท้อ หวังแค่ลูก ได้จบตรี แต่ลูกสิ กับชั่ว จนลืมตน ได้แต่ขอ เงินท่าน ไม่เคยขาด เอาไปใช้ เรื่องอุบาท จนหมดสิ้น ไม่เคยคิด ไม่เคยนึก ได้แต่ชิน ชินกับการ ฟุ่มเฟือย จนเรื่อยมา แล้วสุดท้าย ความเจ็บปวด มันหวนกลับ คนที่รับ นั้นคือพ่อ ใช่ไหมหนา ต้องมานั่ง ร้องไห้ เสียน้ำตา พ่อเร่งหา ลูกล้างผลาญ หมั่นทำลาย จนวันหนึ่ง คิดได้ ในที่สุด แต่เวลา กับหยุด ฝันสลาย ท่านไม่ได้ อยู่กับเรา ไปจนตาย กว่าคิดได้ มันคงสาย ไม่หวนคืน