กลอนฉันทลักษณ์

กาพย์ยานี 11 ของ Super Junior

ฮยอกแจเป็นดั่งดาวสุกสกาวในความฝัน
ทอแสงดั่งดวงจันทร์ที่ฉันนั้นอยากได้เจอ
หากวันใดได้พบที่ประสบคงพร่ำเพ้อ
ฉันคงหลงละเมออยากเจอเธออยู่ร่ำไป

ทั้งโลกดูสดใสเมื่อหัวใจมีซองมิน
น่ารักเป็นอาจิณอยากเจอมินอยู่ร่ำไป
ท่าทางเขาน่ารักใครก็มักอยากอยู่ใกล้
มองเขาแล้วสดใสโลกทั้งใบสีชมพู

ซูพอจูนีออใครกันหนอขรึมหนักหนา
แก้มป่องทุกเวลาอยู่เมกามาห้าปี
กลับมาเกาหลีใต้เพื่อนคนใหม่ขึ้นต้น'ฮี'
รู้ไหมเขาคนนี้คือคนที่ชอบคิบอม

ฝูงลิงทั้งสิบสามมีสีครามประจำวง
น่ารักและซื่อตรงใครเห็นคงหลงละเมอ
พวกเขาชอบซุกซนวิ่งวุ่นจนแฟนคลับเบลอ
แต่ฉันก็ยังเผลอคิดถึงเธอทุกเวลา

การเที่ยวยามค่ำคืนคือการยืนมองท้องฟ้า
มองดูเหล่าดาราเพื่อเตือนว่าฉันเป็นใคร
เป็นเพียงจุดน้อยน้อยที่ไม่ด้อยไปกว่าใคร
และอยากเก็บหัวใจของเธอไว้ตลอดกาล

สตรี คือ ศัตรู

สตรีคือศัตรู   เหล่าริปูผองไพรินทร์
คราใดบุรุษกิน   สราลับกับข้าวหาย
ทั้งที่เธอมิดื่ม    แต่ปลาบปลื้มมิรู้วาย
แหมถั่วมั่วสบาย    มิขาดสายขบเคี้ยวกลืน

ซดเหล้าโดยเปล่าดาย    แสนระคายจนสุดฝืน
โซดาคือตัวยืน    กับข้าวอื่นก็หมดไป
ผัดเผ็ดรสเด็ดขาด    น่าอนาถเธอกินได้
น้ำแข็งสิถังใหญ่   เธอเคี้ยวเล่นเป็นความเพลิน

โอ้โอ๋ อนิจจา   ช้ำอุรา ข้าเหลือเกิน
จนสุดจะสรรเสริญ   เสนอพจน์รจนา
คราใดเข้าวงเหล้า    เธอก็เฝ้าจำนรรจา
ปากพูดและมือคว้า    แม้ปลาร้าก็ตัดชิม

จึงควรจะสังเวช    เรอทุเรศเมื่อเธออิ่ม
เมากับสลับยิ้ม    ขณะชายระคายเคือง
อิ่มเหล้าแต่หิวข้าว    อุระร้าวเพราะหมดเปลือง
ท้องนางขนาดเขื่อง    บรรจุหมดกำสรดตรม

สตรีคือศัตรู บุรุษรู้มิชื่นชม
อกไหม้และไส้ขม    มิจ่ายตังค์นั่งคอเอียง
จำไว้ บุรุษเอ๋ย   จงละเลยและบ่ายเบี่ยง
ชวนไปก็ได้เพียง   แค่เพื่อนกินสิ้นโศกเอย

กลอนสุภาพแปดคำจำต่อวรรค

กลอนสุภาพแปดคำจำต่อวรรค
ฝึกรู้จักถักทอก่อภาษา
ได้ลองแต่งกลอนรักปักอุรา
ไว้ครั้งหน้ามาอ่านสำราญใจ

แต่บางครั้งทั้งเจ็ดและก็เก้า
ยังนำเอามาต่อให้พอไหว
แบ่งวรรคอ่านให้เหมาะไพเราะไป
ไม่ว่าใครฝึกบ่อยจะค่อยดี

เคล็ดลับการเขียนกลอนแปด

๐ กำหนดจิตสู่ธรรมนำประทีป
บานเป็นกลีบบัวรับกานท์อักษร
อัญเชิญจิตบรมคุณท่านสุนทร
พร่างคำกลอนดุจคล้ายสายธารา

๐ เป็นไอเย็นอ่อนอุ่นละมุนถ้อย
ใครยินคล้อยหลงใหลไอภาษา
ดั่งปี่แก้วพระอภัยฯร่ายมนตรา
เชิญท่านมาดื่มด่ำทิพย์คำกลอน..

๐ แต่งให้บ่อยน้องพี่ดีที่สุด
เพราะคือจุดสำคัญกว่าการสอน
ยิ่งจะคิดเขียนงานกานท์บวร
ถ้านิ่งนอนที่ไหนใครจะเป็น

๐ เขียนเยอะเยอะเขียนไว้มันไม่เสีย
ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรงแจ้งให้เห็น
เพียงเขียนกลอนรู้ไว้ใจเย็นเย็น
ลองเคี่ยวเข็ญความเก่งเบ่งบานมา

๐ เพียงแต่เราปล่อยอารมณ์จะสมจิต
มิยึดติดคำใดเอาไว้หนา
หากเช่นนั้นจะเวียนเศียรทันตา
เพราะรอท่าแก้คำแค่คำเดียว

๐ การเล่นคำมีมากอยู่หลากหลาย
แต่ความหมายต่างกันพลันเฉลียว
หากงงงันเปิดตำราอย่าช้าเชียว
อย่าได้เที่ยวใช้คำนอกตำรา

๐ สื่อกฎเกณฑ์ความหมายจะได้รู้
มิให้ใครหยามหลู่สู่ภาษา
สรรพนามครั้งใดใช้ทุกครา
ทั้งขึ้นหน้าลงท้ายต้องคล้ายกัน

๐ เพราะบางคนขึ้นฉันลงท้ายผม
ใส่ผสมเขียนมาช่างน่าขัน
ควรสังเกตให้ดีชี้ให้ครัน
เวลาสรรค์งานได้ไม่อายคน

๐ เวลาแต่งคิดเรื่องให้หลากหลาย
แต่งบรรยายเรื่องราวเคล้าเหตุผล
ควรสร้างงานเป็นเอกเฉกของตน
อย่าไปสนลอกใครนั้นไม่ดี

๐ หากได้ดูผลงานของท่านอื่น
มาปรับฟื้นงานตนจะถูกที่
ดูเป็นแนวพัฒนาอย่ารอรี
จะทวีฝีมือระบือไกล

๐ ถ้าหากย่ำรอยเท้าเก่ากับที่
เหมือนชีวีมิก้าวเข้าใจไหม
แต่งก็วนเรื่องก็วนทนอ่านไป
เดี๋ยวก็ได้ปิดฉากจากบทกลอน

๐ ด้วยจะเป็นกวีนี้ควรคิด
เพียงอยู่ติดเรื่องฝันนั้นไว้ก่อน
หากกวีขาดฝันพลันม้วยมรณ์
แต่งทุกตอนจะกร่อยด้อยค่าลง

๐ เหมือนครูกลอนสุนทรภู่ดูเป็นหลัก
คิดผูกยักษ์รักคนชนใหลหลง
แนวกวีมีวิญญาณงานบรรจง
เยี่ยมที่ตรงคิดได้แล้วร่ายกานท์

๐ แต่งไปเถอะมานะจะสนุก
น้องจะสุขในทิพย์หยิบความหวาน
หนึ่งในร้อยน้อยใครได้พบพาน
แต่ผู้จารงานกลอนพบก่อนใคร?”

(คุณระนาดเอก  จาก kawethai.com)

กาพย์ยานี11 เขียนสรรพเสร็จให้ถูกทาง

กาพย์ยานี๑๑               เขียนสรรพเสร็จให้ถูกทาง
วรรคหน้า๕พยางค์        วรรคหลังบ้างมี๖เอย
พะ-ยาง  นับเป็น๒        ฟ้า-คน-ยอง  ๓ใช่เลย
จำไว้นะทรามเชย          มี๑๑เป็นพยางค์

กาพย์ยานีสิบเอ็ด เคยท่องเคล็ดเมื่อวานก่อน

กาพย์ยานีสิบเอ็ด
เคยท่องเคล็ดเมื่อวานก่อน
ขึ้นใจก่อนเข้านอน
ที่ครูสอนมีดังนี้

วรรคหน้ามีห้าคำ
วรรคหลังจำหกคำมี
แต่งให้ไพเราะดี
จำต้องมีสัมผัสใน

(แมวเหมียว klonthaiclub.com)

พระภูมิพล ทรงมอบไว้…ให้แผ่นดิน

จากพุทธ…ปรัชญา…นำมาใช้
มอบแด่ปวง…ชนชาวไทย…ไปทั่วหล้า
“เศรษฐกิจพอเพียง” เด่นชัด…เป็นปรัชญา
แนวคิดทรง…คุณค่า…พาก้าวไกล

ให้รู้จัก…ใช้ชีวิต…มิผิดหลัก
ให้ประจักษ์…มัธยัสถ์…อัชฌาสัย
ความพอดี…ไม่ก้าวล่วง…ทุกข์ปวงใด
“พระภูมิพล” ทรงมอบไว้…ให้แผ่นดิน