กลอนฉันทลักษณ์

ผืนดิน พ่อสร้าง ความชุ่มชื้น ท้องน้ำพ่อหยิบยื่น สะอาดสี

….ผืนดินแห้งผาก…ขาดน้ำ…
พ่อเดินย่ำเหยียบข้าม…ร่างสถาน
ก่อร่างสร้างเขื่อน…ไม่นานน้ำมาเยือน…ชลประทาน
ดินแห้งผากวันนั้น…สร้างเมล็ดข้าวนับล้าน…ให้เก็บกิน…

…ผืนน้ำเน่าเสีย…เกินเยียวยา…
พ่อเดินผ่านเห็นเต็มตา…หมดทั้งสิ้น
ร่างแบบกังหันน้ำ…เติมอากาศให้ตาม…ได้ยิน
ชัยพัฒนาหมุนริน…หมดปัญหาน้ำสิ้น…ที่เคยมี

…ผืนฟ้าไร้ฝน…โปรยปราย…
พ่อเดินผ่านผืนทราย…อ่อนล้า…
หยาดน้ำมาจากไหน…พ่อคิดเอาไว้เรื่อยมา…
ไม่นานฝนเทียมหล่นจากฟ้า…สร้างแผ่นดินชุ่มชื้นทั่วหล้า…ปฐพี…

…ผืนดิน..พ่อสร้าง…ความชุ่มชื้น…
ท้องน้ำพ่อหยิบยื่น….สะอาดสี
แผ่นฟ้าที่แห้งผาก…พ่อสร้างฝนให้จาก…สองมือที่มี
แผ่นดินท้องน้าแผ่นฟ้าที่นี่…เกิดจากพระคุณพ่อองค์นี้…องค์เดียว…

(ฌลา สมาชิก klonthaiclub.com)

ถวายบังคมเทิดไท้ องราชันย์

๐ ถวายบังคมเทิดไท้…………….ราชันย์
คุณะ ธ อนันต์……………………..เทียบฟ้า
ทวยราษฎร์สุขเกษมสันต์…………ถ้วนทั่ว
ธ ท่านคือขวัญหล้า……………….ปกเกล้าชาวสยาม

๐ พระนามพระเกียรติก้อง………..เกริกไกร
“ภูมิพล” ขจรไป…………………..ทั่วด้าว
คือหลักแห่งธงชัย…………………ปวงเหล่า ชนเฮย
ทูนเทิดพระเหนือเกล้า…………….เกศน้อมถวายพระพร

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า นางสาวหทัยชนก
สมาชิกบ้านกลอนไทย

ธ ทรงเป็นพระมิ่งขวัญอันยิ่งใหญ่

ธ ทรงเป็นพระมิ่งขวัญอันยิ่งใหญ่
ธ ทรงเป็นหลักชัยอันสูงค่า
ธ ทรงเป็นร่มโพธิ์ไทรในนภา
ธ ทรงเป็นพระราชาของข้าไทย
เป็นหยาดฝนโชลมใจไทยทั่วถิ่น
เป็นเหมือนน้ำที่หลั่งรินให้กินใช้
พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ปัดเป่าภัย
ขอเกิดในใต้พระบาททุกชาติกาล

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

ดวงไฟ

ธ. ทรงเป็นดวงใจ ไทยทุกผู้

…รณีใหญ่กว้าง………….แดนไทย
ทรง…เสด็จท่องไป………ทั่วหล้า
เป็น…ปิ่นหฤทัย…………….ทั่วทุก คนนา
ดวง…จิตไทยทั่วฟ้า……..ร่วมน้อม รวมใจ

ใจ…ทั้งหกสิบล้าน………..รวมกัน
ไทย…ทุกผู้เผ่าพันธุ์……..กราบไหว้
ทุก…ถิ่นทวยเทพอัน…….ศักดิ์สิทธิ์
ผู้…คนน้อมขอให้………….ปักป้อง จอมสยามฯ

Alpha (Klonthaiclub.com)

อนิจจัง

มืดครึ้มกระหึ่มทิศ   ฟ้าลิขิตสายลมผัน
อบอ้าวคลุกเคล้ากัน   ลมกรรโชกโบกพัดพา
เมฆหมอกบอกสลัว   มืดพันพัวมัวผวา
ต้นตาลนานนับมา   ยังยืนต้นบนพื้นดิน

เดี๋ยวมืดเดี๋ยวกลับส่าง   สู่หนทางสมถวิล
วิหกผกหากิน    พื้นนาไร่หายโอดครวญ
โลกนี้บ่แน่นอน   เดี๋ยวเย็นร้อนกลับแปรผวน
โอ้ฟ้าสิมาปรวน   อนิจจังมิยั่งยืน

กระจกเงา

กระจกเงา…สะท้อน…ความเป็นจริง
เรื่องทุกสิ่ง…ชัดเจน…เด่นตรงหน้า
ไม่มีใคร…หลอกได้…ใต้แววตา
เลวชั่วช้า…ต่ำทราม…ตามใจตน

หลอกใคร – ใคร…หลอกได้…หลอกไปเถิด
อย่าเตลิด…หลอกตัว…มัวหมองหม่น
หลอกใคร – ใคร…หลอกได้…เว้นใจตน
เกิดเป็นคน…เลว – ดี…อยู่ที่ใจ

การกระทำ…เปรียบดั่ง…กระจกเงา
ฉายสะท้อน…ความเขลา…ของเราได้
คนคิดดี…ทำดี…ที่จิตใจ
แสดงออก…บอกได้…ในท่าที

คนคิดชั่ว…ทำชั่ว…ด้วยตัวเขา
กระจกเงา…สะท้อน…ตอนวิถี
คนทำดี…ต้องรับ…กลับผลดี
คนชั่วไม่ -. อาจหนี…ลี้ผลกรรม

Lookaew (กลอนชนะเลิศ มิ.ย.52)

เพียงออ

…เพียงลมโบก…พัดเบา…ให้เหงาจิต…
…ใบไม้ปลิด…ปลิวร่อน…ลงจากก้าน…
…ไผ่ต้นน้อย…ลู่ตาม…อย่างสุดทาน…
…เอนเอียงตาม…ลมผ่าน…ทุกคราไป…

…บางครั้งก่อ…กำเนิด…ให้เกิดเสียง…
…สายลมเพียง…พัดใบ…ให้โบกไหว…
…ชวนใจเศร้า…โศกศัลย์…ถึงคนไกล…
…ว่าวันใด…จึงได้…เธอกลับคืน…

…พายุพัด…กระหน่ำ…ซ้ำลมซัด…
…ต้นไผ่ฤๅ…ยืนหยัด…ไม่อาจฝืน…
…หักลงมา…สู่ดิน…ดั่งกองฟืน…
…ก้มหยิบไม้…จากพื้น…ทั้งน้ำตา…

…นำมาเหลา…ให้เรียบ…ดูงามสวย…
…เจาะรูด้วย…ความคิด…คำนึงหา…
…เสียงจากไม้…เคยเศร้า…เหงาอุรา…
…วันนี้มา…เถิดฉัน…จะเป่าแทน…

…หวังให้เสียง…ขลุ่ยครวญ…ลอยไปถึง…
…ใครคนหนึ่ง…ซึ่งฉัน…เฝ้าหวงแหน…
…เมื่อเราอยู่…ต่างภพ…จบดินแดน…
…ปรารถนา…เหลือแสน…จะพบกัน…

…หากวันใด…ได้ยิน…เพลงขลุ่ยผิว…
…แว่วข้ามทิว…เขาสูง…ดุจความฝัน…
…นั่นคือความ…ในใจ…นับร้อยพัน…
…ที่ตัวฉัน…ส่งผ่าน…มากับลม…

(Alpha บ้านกลอนไทย)